Home » บทความ » จัดการเอกสารตามหลักมาตราฐาน ISO 9001 (Document Management)

จัดการเอกสารตามหลักมาตราฐาน ISO 9001 (Document Management)

มาตราฐาน ISO 9001 คือ ?

มาตราฐาน ISO 9001 เป็นมาตราฐานสากลที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานภายในองค์กร

แนวคิดสำคัญของ ISO 9001 ก็คือการจัดวางระบบบริหารงานเพื่อประกันคุณภาพ ซึ่งเป็นระบบที่จะทำให้มั่นใจว่ากระบวนการต่าง ๆ ได้รับการควบคุม และสามารถตรวจสอบได้ โดยการผ่านระบบที่ระบุขั้นตอนและวิธีการทำงาน เพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่าบุคคลากรในองค์กรรู้หน้าที่ความรับผิดชอบ และขั้นตอนต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน โดยต้องมีการฝึกอบรมให้ความรู้ และทักษะในการปฏิบัติงาน มีการจดบันทึกข้อมูล รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระบบหรือไม่ และมีการแก้ไขข้อผิดพลาดรวมทั้งมีแนวทางในการป้องกันข้อผิดพลาดเดิมที่อาจเกิดขึ้นอีก

ในปัจจุบันมาตราฐาน ISO 9001 มีการเพิ่มข้อกำหนด ในเรื่องการทำความเข้าใจกับองค์กรและบริบทขององค์กร การทำความเข้าใจกับความต้องการ และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อใช้สำหรับการดำเนินการกับคงามเสี่ยง และโอกาส รวทถึงข้อกำหนดอื่น ๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้

เอกสารมากมายให้โปรแกรมจัดเก็บเอกสาร BeeECM จัดการให้คุณ โทร.062-461-5593 ทดลองใช้ระบบฟรีได้แล้ววันนี้ !!!

มาตรฐานที่ใช้ได้กับทุกองค์กรและมาตรฐาน ISO อื่น

ISO 9001 เน้นบทบาทของผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องให้ความสำคัญกับความต้องการ ความคาดหวังของลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง องค์กรทุกผระเภท ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิต หรือภาคการบริการทั้งรัฐและเอกชน สามารถนำระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 ไปใช้ได้ และไม่มีขีดจำกัดว่าต้องใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีการลงทุนสูงและบุคลากรจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพสินค้า และการให้บริการเทียบเคียงกับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงได้

ประโยชน์ของ ISO ที่ได้รับภายในองค์กร

  1. มีการบริหารเชิงกลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยงจากบริบท ความต้องการ และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร
  2. มีการจัดการกับความต้องการ และความคาดหวังของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
  3. จัดการกับคุณภาพของสินค้าที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง
  4. มีระบบของข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  5. มีการจัดการความรู้ขององค์กร
  6. เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น
  7. เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  8. มีโครงสร้างมาตราฐานที่บูรณาการมาตราฐานต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

ประโยชน์ ISO ที่ได้รับภายนอกองค์กร

  1. ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้าและการบริการมากขึ้น เพราะมีมาตราฐาน ISO รับรอง
  2. การบริหารจัดการต่าง ๆ เป็นที่ยอมรับในระบบสากล
  3. ความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นไปตามที่กำหนด
  4. เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนกับองค์กร
  5. เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านธุรกิจ

มาตราฐาน ISO กับการจัดการเอกสาร

เอกสารเป็นคำถามใหญ่ ๆ สำหรับองค์กรที่ต้องการทำ ระบบ QMS (Quality Management System) โดยเฉพาะประเทศไทย ที่เรามักไม่นิยมจดบันทึก สร้างมาตราฐานการทำงานที่เป็นข้อกำหนดกฏเกณฑ์

ระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System: QMS) เป็นมาตรฐานที่มีการปรับปรุงข้อกำหนดใหม่ ที่จะช่วยในการปรับปรุงสมรรถนะในภาพรวมขององค์กร และเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วยให้องค์กรมีความสามารถในการผลิตสินค้า และให้การบริการตรงตามความต้องการของลูกค้าและข้อกำหนดกฏหมาย/กฏระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับบริบทและวัตถุประสงค์ขององค์กร และจะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการความท้าทายต่างๆรวมถึงความต้องการและความคาดหวังในอนาคต ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สนใจโปรแกรมจัดเก็บเอกสารติดต่อเรา ..

ข้อกำหนดมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ในเรื่องเอกสาร

มาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ข้อ 4.1 “ข้อกำหนดทั่วไป” กำหนดว่า องค์กรต้องจัดทำระบบ ทำเป็นเอกสาร นำไปปฏิบัติใช้ และธำรงรักษาระบบการจัดการคุณภาพ และการปรับปรุงประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องตาม ข้อกำหนดนี้มาตรฐานสากล

มาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ข้อ 4.2 “ประเภทและชนิดเอกสาร ในมาตรฐาน ISO 9001 : 2008”

a) เอกสารระบุถ้อยแถลงนโยบายคุณภาพ และวัตถุประสงค์คุณภาพ

ข้อกำหนดสำหรับคุณภาพนโยบายมีการระบุไว้ในข้อ 5.3 ของมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 เอกสารนโยบายนี้ต้องได้รับการควบคุมตามข้อกำหนด 4.2.3 ข้อกำหนดสำหรับวัตถุประสงค์คุณภาพมีการ กำหนดในข้อ 5.4.1 ของมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 เอกสารเหล่านี้ต้องได้รับการควบคุมตามข้อกำหนด 4.2.3

b) คู่มือคุณภาพ

ข้อกำหนด 4.2.2 ของมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ระบุข้อกำหนดสำหรับเนื้อหาที่มีคู่มือคุณภาพ รูปแบบและโครงสร้างของคู่มือ ในแต่ละองค์กรจำต่างกัน และจะขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร รูปแบบวัฒนธรรม และความซับซ้อน บางองค์กรอาจเลือกที่จะให้คู่มือคุณภาพรวมข้อมูลอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้น ๆ

  • องค์กรขนาดเล็กอาจระบุรายละเอียดของเอกสารทั้งหมดในคู่มือคุณภาพนี้
  • องค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสาขาหลากหลาย องค์กรอาจมีคู่มือหลายเล่มในระดับชาติหรือระดับภูมิภาค

คู่มือคุณภาพนี้ต้องได้รับการควบคุมตามข้อกำหนด 4.2.3

c) เอกสารระเบียบปฏิบัติ

มาตรฐาน ISO 9001 : 2008 บังคับให้องค์กรต้อวมี “เอกสารระเบียบปฏิบัติ” สำหรับ 6 กิจกรรมดังต่อไปนี้

4.2.3 การควบคุมเอกสาร

4.2.4 การควบคุมการบันทึก

8.2.2 ตรวจสอบภายใน

8.3 การควบคุมผลิตภัณฑ์ ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด

8.5.2 กิจกรรมการแก้ไข

8.5.3 กิจกรรมการป้องกัน

เอกสารเหล่านี้ต้องได้รับการควบคุมตามข้อกำหนดข้อ 4.2.3

บางองค์กรอาจพบว่าหากรวมขั้นตอนหลากกลายกิจกรรมเป็นเอกสารฉบับเดียว (เช่นการดำเนินการแก้ไขและป้องกัน) ขณะเดียวกันบางกิจกรรม (ข้อกำหนด) อาจระบุโดยเอกสารมากกว่าหนึ่งฉบับ

โดยทั่วไปองค์กรทุกองค์กรมีความต้องการเอกสารระเบียบปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถบริหารกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิผล แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่ว่าองค์กรจะมีเอกสารระเบียบปฏิบัติหรือไม่ก็ตาม องค์กรต้องสามารถแสดงหลักฐานความมีประสิทธิผลว่าระบบ QMS ของเรามีประสิทธิผล

d) เอกสารที่จำเป็นโดยองค์กรเพื่อให้มั่นใจว่ามีการวางแผนการดำเนินการ และควบคุมของกระบวนการอย่างมีประสิทธิผล

เพื่อให้องค์กรสามารถแสดงความมีประสิทธิผลของ QMS เราอาจจำเป็นต้องมีเอกสารนอกเหนือจากที่ ISO 9001 บังคับ

มีข้อกำหนดมากมายในมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ที่แม้ว่าไม่กำหนดให้องค์กรต้องมีเอกสาร แต่ได้กำหนดให้องค์กรพิจารณาความจำเป็นเอง ตัวอย่างเอกสารโดยทั่วไปมีดังนี้

  • แผนภูมิกระบวนการผลิต Flowchart, Process Map และเอกสารระบุกระบวนการ
  • ผังองค์กร
  • สเป็ค
  • คู่มือการทำงานและทดสอบระบบ
  • ตารางการผลิต
  • ทะเบียนผู้ขายที่ได้รับการอนุมัติ
  • แผนคุณภาพ

e) การบันทึก

  • ตัวอย่างของการบันทึกที่กำหนดโดยมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 จะแสดงในภาคผนวก
  • องค์กรเป็นผู้กำหนดว่าบันทึกอะไรบ้างที่ต้องการ
  • ข้อกำหนดสำหรับการควบคุมบันทึกจะแตกต่างจากเอกสาร บันทึกทั้งหมดต้องได้รับการควบคุมตามข้อกำหนด 4.2.4

องค์กรที่ต้องการนำระบบ QMS ไปปฏิบัติ

สำหรับองค์กรที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ระบบ QMS และต้องการให้ตรงตามมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 อาจจะต้องปฏิบัติตามนี้

สำหรับองค์กรที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรือยังไม่ได้นำระบบ QMS มาใช้

  • ระบุกระบวนการจำเป็นสำหรับการดำเนินการที่มีประสิทธิผลในกรอบระบบการจัดการคุณภาพ
  • ทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการเหล่านี้
  • Documenting กระบวนการที่จำเป็นในการทำให้มั่นใจในประสิทธิผลการทำงาน และการควบคุม

กระบวนการเหล่านี้รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากร การก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ และกระบวนการวัด ที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับที่มีประสิทธิผลการทำงานของ QMS

ทำการวิเคราะห์ประสิทธิผลกระบวนการ เพื่อกำหนดเอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น สำหรับระบบการจัดการคุณภาพโดยคำนึงถึงความต้องการของมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ซึ่งไม่ควรให้มาตรฐาน ISO 9001 : 2008 เป็นตัวกำหนดปริมาณเอกสาร

แสดงการสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 9001 : 2008

สำหรับองค์กรที่ต้องการแสดงความสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับรองระบบ และจำเป็นต้องเตรียมหลักฐานของการดำเนินการที่มีประสิทธิผลของระบบ QMS

  • องค์กรสามารถแสดงตรงกันโดยไม่ต้องใช้เอกสารกว้างขวาง
  • ในการอ้างความสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 องค์กรที่ต้องการแสดงหลักฐานความมีประสิทธิผลกระบวนการและระบบการจัดการคุณภาพ
  • ประจักษ์หลักฐานไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับเอกสารระเบียบปฏิบัติหรือบันทึก ยกเว้นเฉพาะที่กล่าวถึงในมาตรฐาน ISO 9001 : 2008

ที่ไหนองค์กรไม่มีขั้นตอนภายในเฉพาะ สำหรับกิจกรรมนั้น ๆ และไม่มีข้อกำหนดบังคับ (เช่น ข้อ 5.6 การจัดการทบทวนฝ่ายบริหาร) หลักฐานการสอดคล้องจะดูจากการปฏิบัติ

ขอขอบคุณบทความ ISO จาก : www.isotoyou.com

สรุป

ทั้งนี้ระบบการควบคุมเอกสารในระบบการบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2008 นี้ ยังรวมถึงเอกสารสารสนเทศที่มาจากแหล่งภายนอก ซึ่งองค์กรพิจารณาว่ามีความจำเป็นสำหรับการวางแผน และปฏิบัติงานของแต่ละกระบวนการ ก็ต้องได้รับการบ่งชี้ และมีการควบคุมตามความเหมาะสมตามระบบการบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2008 อีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ..